การตั้งค่าที่เกี่ยวข้องกับค่าแสง (ระบบวัดแสงและการชดเชยแสง)
- เลือกวิธีวัดค่าแสงของกล้อง
- การเปิดรับแสงเป็นเวลานาน (โหมด M เท่านั้น)
- การล็อคค่าแสงอัตโนมัติ
- การชดเชยแสง
เลือกวิธีวัดค่าแสงของกล้อง
ระบบวัดแสงจะกำหนดการวัดค่าแสงของกล้อง เลือกวิธีการที่ใช้และพื้นที่ที่จะวัดแสงเมื่อกล้องจะวัดค่าแสง
-
ในโหมดอื่นนอกเหนือจาก P, S, A และ M กล้องจะเลือกวิธีการวัดแสงตามฉาก
ตัวเลือก |
คำอธิบาย |
|
---|---|---|
L |
[ ] |
ให้ภาพที่เป็นธรรมชาติในสถานการณ์ส่วนใหญ่ กล้องจะวัดแสงเป็นบริเวณกว้างในกรอบภาพแล้วตั้งค่าแสงตามการกระจายโทนสี (ความสว่าง), สี, ระยะห่าง และองค์ประกอบภาพเพื่อผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับภาพที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า |
M |
[ ] |
กล้องจะวัดแสงทั้งกรอบภาพแต่จะกำหนดน้ำหนักมากที่สุดที่กลางภาพ (สามารถเลือกขนาดของพื้นที่ได้โดยใช้การตั้งค่าแบบกำหนดเอง b4 [ ]; หากติดตั้งเลนส์ชนิดไม่มี CPU หรือ AF-S เลนส์ฟิชอาย NIKKOR 8–15mm f/3.5–4.5E ED พื้นที่จะมีขนาดเทียบเท่ากับวงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 12 มม.) เป็นระบบวัดแสงแบบคลาสสิคสำหรับการถ่ายภาพบุคคลซึ่งแนะนำให้ใช้เมื่อใช้ฟิลเตอร์ร่วมกับปัจจัยกำหนดค่าแสง (องค์ประกอบจากฟิลเตอร์) เกิน 1 เท่า |
N |
[ ] |
กล้องจะวัดพื้นที่วงกลมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 มม. (ประมาณ 1.5% ของกรอบภาพ) จุดศูนย์กลางของวงกลมจะอยู่ที่จุดโฟกัสปัจจุบัน ทำให้สามารถวัดแสงวัตถุที่ไม่ได้อยู่ตรงกลางภาพได้ (กล้องจะวัดแสงที่จุดโฟกัสกึ่งกลางหากติดตั้งเลนส์ชนิดไม่มี CPU หรือ AF‑S เลนส์ฟิชอาย NIKKOR 8–15mm f/3.5–4.5E ED หรือหากใช้งาน [ โหมดพื้นที่ AF ) ระบบวัดแสงเฉพาะจุดทำให้มั่นใจได้ว่าวัตถุจะได้รับค่าแสงที่ถูกต้อง แม้ว่าพื้นหลังมีแสงจ้ากว่าหรือมืดกว่าอย่างมาก ]; |
t |
[ ] |
กล้องจะกำหนดเน้นน้ำหนักมากที่สุดในส่วนที่ไฮไลท์ ใช้เพื่อลดการสูญเสียรายละเอียดในส่วนที่ไฮไลท์ ตัวอย่างเช่น เมื่อถ่ายภาพที่มีแสงบนเวที |
การเลือกตัวเลือกระบบวัดแสง
กดปุ่ม W (Y) ค้างไว้แล้วหมุนแป้นหมุนเลือกคำสั่งหลัก
-
ตัวเลือกระบบวัดแสงจะปรากฏในแผงควบคุมและช่องมองภาพ
วิธีการวัดแสงที่ใช้เมื่อเลือก [
] ไว้จะแตกต่างกันไปตามเลนส์-
เลนส์ CPU:
-
ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพแบบสี 3 มิติ III: สามารถใช้ได้กับเลนส์ CPU ชนิด D, E และ G กล้องจะรวมข้อมูลระยะห่างเข้าไปด้วยเมื่อคำนวณค่าแสง
-
ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพสี III: สามารถใช้ได้กับเลนส์ CPU ชนิดอื่นที่ไม่ใช่ D, E และ G ไม่รวมข้อมูลระยะห่างเข้าไปด้วย
-
-
เลนส์ชนิดไม่มี CPU:
-
ระบบวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพสีจะใช้ได้หากมีข้อมูลเลนส์โดยใช้ตัวเลือก [
] ในเมนูตั้งค่า จะใช้ [ ] หากไม่มีข้อมูลเลนส์
-
จะใช้ [
] หากเลือก [ ] ไว้เมื่อติดตั้งเลนส์ชนิดไม่มี CPU และเลนส์ CPU บางตัว (เลนส์ AI-P NIKKOR และเลนส์ AF ชนิดอื่นที่ไม่ใช่ D, E หรือ G)การเปิดรับแสงเป็นเวลานาน (โหมด M เท่านั้น)
กล้องมีสองตัวเลือกสำหรับการเปิดรับแสงเป็นเวลานาน: Bulb (การเปิดชัตเตอร์ค้าง) และ Time (เวลา) การเปิดรับแสงเป็นเวลานานสามารถใช้สำหรับถ่ายภาพดอกไม้ไฟ ทิวทัศน์ยามค่ำคืน ดวงดาว หรือการเคลื่อนที่ของแสงไฟ
ความไวชัตเตอร์: การเปิดชัตเตอร์ค้าง (ค่าแสง 35 วินาที) |
ความไวชัตเตอร์ |
คำอธิบาย |
---|---|
Bulb (การเปิดชัตเตอร์ค้าง) |
การเปิดชัตเตอร์ค้างไว้ในขณะที่กดปุ่มกดชัตเตอร์ลงค้างไว้ |
Time (เวลา) |
กล้องจะเริ่มถ่ายภาพเมื่อกดปุ่มกดชัตเตอร์และจะสิ้นสุดการล็อคเมื่อกดปุ่มนี้อีกครั้ง |
-
โปรดใช้ขาตั้งกล้องหรือใช้รีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย หรือสายลั่นชัตเตอร์ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม เพื่อป้องกันไม่ให้ภาพพร่ามัว
-
เตรียมกล้องให้พร้อม
ติดตั้งกล้องเข้ากับขาตั้งกล้องหรือวางบนพื้นที่มั่นคงและได้ระดับ
-
หมุนแป้นหมุนเลือกโหมดไปที่ M
กดปุ่มปลดล็อคแป้นหมุนเลือกโหมดค้างไว้ แล้วหมุนแป้นหมุนเลือกโหมดไปที่ M
-
เลือกความไวชัตเตอร์
-
ขณะที่ระบบวัดแสงเปิดอยู่ ให้หมุนแป้นหมุนเลือกคำสั่งหลักเพื่อเลือกความไวชัตเตอร์ของการเปิดชัตเตอร์ค้าง (A) หรือเวลา (%)
-
สัญลักษณ์แสดงค่าแสงจะไม่ปรากฏขึ้นหากเลือกการเปิดชัตเตอร์ค้าง (A) หรือเวลา (%)
-
-
เปิดชัตเตอร์
-
การเปิดชัตเตอร์ค้าง: หลังจากโฟกัส ให้กดปุ่มกดชัตเตอร์บนตัวกล้องหรือกดสายลั่นชัตเตอร์หรือรีโมตคอนโทรลแบบไร้สายซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมลงจนสุด กดปุ่มกดชัตเตอร์ค้างไว้จนกว่าจะบันทึกภาพเสร็จสมบูรณ์
-
เวลา: หลังปรับโฟกัสแล้ว ให้กดปุ่มกดชัตเตอร์ลงจนสุด
-
-
ปิดชัตเตอร์
-
การเปิดชัตเตอร์ค้าง: ยกนิ้วของท่านออกจากปุ่มกดชัตเตอร์
-
เวลา: กดปุ่มกดชัตเตอร์ลงจนสุด
-
เพื่อป้องกันไม่ให้แสงที่ลอดผ่านช่องมองภาพปรากฏขึ้นในภาพหรือส่งผลต่อค่าแสง เราขอแนะนำให้ท่านถอดขอบยางรองตาออกและปิดช่องมองภาพด้วยฝาปิดช่องมองภาพที่ให้มา (ปิดช่องมองภาพ) Nikon ขอแนะนำให้ใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จไว้เต็มแล้ว หรืออะแดปเตอร์ AC และปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม เพื่อป้องกันไม่ให้สูญเสียพลังงานขณะที่ชัตเตอร์เปิดค้างไว้ โปรดทราบว่าอาจเกิดสัญญาณรบกวน (จุดสว่าง, จุดพิกเซลสว่างแสดงสัญญาณรบกวน หรือฝ้า) จากการเปิดรับแสงเป็นเวลานาน สามารถลดจุดสว่างและฝ้าโดยเลือก [ ] สำหรับ [ ] ในเมนูถ่ายภาพ
การล็อคค่าแสงอัตโนมัติ
ใช้การล็อคค่าแสงอัตโนมัติเพื่อจัดองค์ประกอบภาพหลังจากการตั้งค่าค่าแสงสำหรับพื้นที่เฉพาะของวัตถุ การล็อคค่าแสงจะมีประโยชน์เมื่อบริเวณที่ใช้ตั้งค่าค่าแสงมีความสว่างหรือมืดกว่าสภาพแวดล้อมมาก
-
เลือก [ เลือกวิธีวัดค่าแสงของกล้อง )
] หรือ [ ] ( -
ล็อคค่าแสง
-
วางตำแหน่งวัตถุไว้ในจุดโฟกัสที่เลือกแล้วกดปุ่มกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่ง ขณะกดปุ่มกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งและวัตถุอยู่ในจุดโฟกัส ให้กดปุ่ม A เพื่อล็อคค่าแสง (ถ้าท่านกำลังใช้โฟกัสอัตโนมัติ ให้ตรวจสอบว่าสัญลักษณ์แสดงว่าอยู่ในโฟกัส I ปรากฏในช่องมองภาพ)
-
ขณะการล็อคค่าแสงทำงานอยู่ สัญลักษณ์ AE‑L จะปรากฏในช่องมองภาพ
-
-
จัดองค์ประกอบภาพใหม่
กดปุ่ม A ค้างไว้ จัดองค์ประกอบภาพใหม่แล้วถ่ายภาพ
ใน [ เลือกวิธีวัดค่าแสงของกล้อง ) ค่าแสงจะถูกล็อคไว้เป็นค่าที่วัดได้ในวงกลมที่อยู่ตรงกลางของจุดโฟกัสที่เลือกไว้ ใน [ ] ค่าแสงจะถูกล็อคไว้เป็นค่าที่วัดได้ในวงกลมขนาด 12 มม. ที่จุดกึ่งกลางของช่องมองภาพ
] (ขณะที่การล็อคค่าแสงทำงานอยู่ สามารถตั้งค่าต่อไปนี้ได้โดยไม่กระทบต่อค่าแสงที่วัดไว้แล้ว:
โหมด |
การตั้งค่า |
---|---|
P |
ความไวชัตเตอร์และรูรับแสง (โปรแกรมแบบยืดหยุ่น; โปรแกรมแบบยืดหยุ่น ) |
S |
ความไวชัตเตอร์ |
A |
รูรับแสง |
-
สามารถตรวจสอบค่าใหม่ได้ในช่องมองภาพและแผงควบคุม
-
โปรดทราบว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบวัดแสงได้ขณะที่ล็อคค่าแสงอยู่
การชดเชยแสง
การชดเชยแสงจะใช้เพื่อปรับค่าแสงให้ต่างจากที่กล้องแนะนำเพื่อช่วยให้ภาพสว่างขึ้นหรือมืดลง ซึ่งจะได้ผลดีที่สุดเมื่อเลือก [ เลือกวิธีวัดค่าแสงของกล้อง )
] หรือ [ ] ไว้สำหรับระบบวัดแสง (
–1 EV |
ไม่มีการชดเชยแสง |
+1 EV |
การปรับการชดเชยแสง
กดปุ่ม E ค้างไว้แล้วหมุนแป้นหมุนเลือกคำสั่งหลัก
-
ค่าที่เลือกจะปรากฏในแผงควบคุมและช่องมองภาพ
-
เลือกค่าระหว่าง –5 EV (เปิดรับแสงน้อยเกินไป) ถึง +5 EV (เปิดรับแสงมากเกินไป)
-
ตามค่าที่ตั้งจากโรงงาน จะเปลี่ยนได้ครั้งละ 1/3 EV ระดับการเพิ่มสามารถเปลี่ยนได้โดยการใช้การตั้งค่าแบบกำหนดเอง b1 [
] -
โดยทั่วไป ค่าบวกจะทำให้วัตถุสว่างขึ้นและค่าลบจะทำให้วัตถุมืดลง
-
ค่าปัจจุบันจะแสดงขึ้นในแผงควบคุมและช่องมองภาพเมื่อกดปุ่ม E
การแสดงผล
ไม่มีการชดเชยแสง (กดปุ่ม E)
–0.3 EV
+2.0 EV
แผงควบคุม
ช่องมองภาพ
-
สัญลักษณ์ E และสัญลักษณ์แสดงค่าแสงจะปรากฏในแผงควบคุมและช่องมองภาพ ในโหมดอื่นๆ นอกเหนือจากโหมด M เลขศูนย์ (“0”) ตรงกลางสัญลักษณ์แสดงค่าแสงจะกะพริบในแผงควบคุม
-
สามารถเรียกคืนค่าแสงปกติได้โดยการตั้งค่าการชดเชยแสงเป็น ±0.0 กล้องจะไม่รีเซ็ตการชดเชยแสงเมื่อปิดการทำงานของกล้อง
ในโหมด M การชดเชยแสงจะมีผลกับสัญลักษณ์แสดงค่าแสงเท่านั้น โดยที่ความไวชัตเตอร์และค่ารูรับแสงไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อใช้แฟลช การชดเชยแสงจะมีผลต่อระดับแฟลชและค่าแสง การเปลี่ยนความสว่างของวัตถุหลักและพื้นหลัง การตั้งค่าแบบกำหนดเอง e3 [
] สามารถใช้จำกัดให้การชดเชยแสงมีผลต่อพื้นหลังเท่านั้น